พระ เจ้า เลือกประเทศไทยเพื่อที่จะเป็นต้นแบบของสิ่งที่พระเจ้าจะทำทั่วโลก พวกท่านอยู่ในช่วงเวลาที่พิเศษสุด เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ พวกเราไม่ต้องเสาะหาการเคลื่อนไหวในประเทศไทยอีกต่อไป เพราะการทเคลื่อนไหวของประเทศไทยนั้นอยู่ที่นี่แล้วในการ ฟื้นฟูนั้น เราเห็นคนตื่นตัวขึ้น มีคนมาเชื่อพระเจ้ามากขึ้น คริสตจักรเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่นั้นเป็นแค่ผลของการฟื้นฟู ไม่ใช่ ความเป็นตัวตนที่แท้ของการฟื้นฟู เพราะว่า การฟื้นฟู คือ พระสิริแห่งการทรงสถิตของพระเจ้าเข้ามาในคริสตจักร มีเด็กสองคนคุยกันในการฟื้นฟูเมื่อต้นศตวรรษนี้ คนหนึ่งว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเมืองของเรา ผู้คนเปลี่ยนไปหมด” เพื่อนของเขาตอบว่า “นายไม่รู้อะไรเลยหรือไง” และพูดต่อไปว่า “พระเยซูย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว” ชีวิตของพระเจ้าได้ถูกเทเข้ามาในคริสตจักรของพระองค์ เมื่อเราพบการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้า เมื่อนั้นคือเวลาแห่งความรอดของเรา
การ ฟื้นฟูก็คือ การทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าลงมาเหนือเราพร้อมกันทั้งหมด การฟื้นฟูที่เมืองเวลส์ เกิดขึ้นก็เพราะคริสตจักรในเมืองนั้นอธิษฐานวิงวอนขอการฟื้นฟูจากพระเจ้า แล้วทันใดนั้นการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าก็ลงมา ไม่ใช่แค่ในเมืองเวลส์เท่านั้น แต่ในเมืองรอบ ๆ และขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ เพียงคนเดินทางมาถึงเมืองนี้ อยู่ ๆ ก็คุกเข่าลงสารภาพบาปของตัวเองต่อพระเจ้า ตำรวจและผู้พิพากษาก็ตกงานเพราะว่าไม่มีอาชากรรมเกิดขึ้นในเมืองนี้อีกต่อไป การฟื้นฟูเป็นเรื่องสนุก เพราะว่าเมื่อการทรงสถิตของพระเจ้ามา การกลับใจ ความรอด
พระเจ้าสถิตอยู่กับฉันตลอดเวลาไม่ใช่หรือ? การทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าที่พระคำพูดถึงนั้น มีอยู่สามระดับ ดังนี้
1. พระองค์สถิตอยู่ทุกหนแห่ง เหมือนคลื่นวิทยุ เรารู้ว่ามีอยู่ในอากาศแต่รับสัมผัสไม่ได้
2. การทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าที่อยู่ข้างใน พระองค์อยู่เสมอในหัวใจของเรา ไม่เหมือนกับที่อื่น
3. การทรงสถิตอยู่ที่ปรากฏออกมา บางครั้งเรียกว่า “พระสิริ” เราสามารถรับรู้และสัมผัสได้จากประสาทสัมผัสทั้งหลาย มักเกิดขึ้นเวลาที่เรานมัสการ ในการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้านั้น เวลาไม่มีความหมายอันใด และนั่นคือ ระดับที่สี่
4. พระสิริที่ดำรงอยู่ Shekinah พระเจ้าไม่ได้มาเยี่ยมเยียนชั่วครู่เดียว แต่พระองค์มาแล้วอยู่ด้วยเลย ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น การฟื้นฟูก็เกิดขึ้น พระเจ้าปรารถนาที่จะอยู่กับประชากรของพระองค์ อพยพ 25.8 พระองค์ต้องการให้เราชื่นชมกับความดีงามของพระองค์อยู่ตลอดเวลา พระองค์ต้องการที่จะประทับอยู่ในหัวใจของเรา ในบ้านของเรา ในคริสตจักรของเรา ในประเทศของเรา แล้วเราจะต้องทำอย่างไร? พระคำพระเจ้ามีคำตอบไว้ให้กับเรา
เมื่อ พระองค์จะมาอยู่ด้วย พระองค์ให้แบบแผนกับโมเสสเป็นของขวัญเพื่อที่จะสร้างที่ประทับของพระเจ้า ถ้าโมเสสทำตามทุกประการพระเจ้าก็จะมาสถิตอยู่ด้วยแบบถาวร ให้เรามาดูด้วยกัน
1. ต้องเป็นสถานที่ที่มีการนมัสการอย่างต่อเนื่อง
* มีแท่นบูชา คือ ถวายทั้งหมดแด่พระเจ้า
* และไฟที่อยู่บนแท่นบูชานั้นจะต้องลุกอยู่และไม่ดับเลย เลวี 6.12
2. ต้องเป็นสถานที่แห่งการขอบพระคุณอย่างต่อเนื่อง
* มีโต๊ะขนมปังหน้าพระพักตร์
* และวางขนมปังไว้บนโต๊ะต่อหน้าเราไว้เป็นนิตย์
3. ต้องเป็นสถานที่แห่งการสามัคคีธรรมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง
* คันประทีปและไฟบนนั้นเล็งถึงการสามัคคีธรรมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
* จงให้ไฟที่อยู่บนคันประทีปนี้ลุกอยู่ตลอดเวลา อย่าให้ดับเลย
4. ต้องเป็นสถานที่แห่งการอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง
* แท่นเครื่องหอมบูชา
* ต้องเผาเครื่องหอมบนแท่นนี้เป็นเนืองนิตย์
เมื่อมีสิ่งเหล่านี้แล้ว นี่คือพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อพวกเรา อพยพ 29
1. เราจะมาพบเจ้าที่นั่น
2. เราจะพูดกับเจ้าจากที่นั่น การเผยพระวจนะ การสำแดงเชิงการเผยพระวจนะเกิดขึ้น
3. เจ้าจะมีประสบการณ์พระสิริของเรา พระเจ้าจะสำแดงการทรงสถิตอยู่ด้วย
4. เราจะอยู่กับเจ้าและเป็นพระเจ้าของเจ้า
เมื่อ โมเสสวางทุกอย่างไว้ตามตำแหน่ง เมื่อนั้นพระสิริของพระเจ้าก็ลงมา การ อัศจรรย์ใน กิจการ 3 เกิดขึ้น เพราะว่า พวกเขาใช้เวลาอธิษฐานมาแล้ว 1 ชั่วโมง พวกเขาได้อธิษฐานมาแล้วหลายชั่วโมง พวกเขาตั้งเวลาไว้ทุกวันเพื่อที่จะอธิษฐาน พวกเขาแบ่งกลางคืนเป็นกะ เป็นช่วงเพื่อที่การอธิษฐานนั้นจะไม่ขาดช่วงแต่ต่อเนื่องเรื่อยไป กิจการ 2.37 ฮีบรู 13.15
พระองค์ ได้บอกเราแล้วว่าเราจะมีพระสิริของพระเจ้าได้อย่างไร ปัญหาส่วนใหญ่ของพวกเราก็คือ พวกเราไม่ทำตามคำสั่ง จัดระเบียบวันของคุณของคุณเสียใหม่ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1727 ในขณะที่ผู้ลี้ภัยหลายกลุ่มซึ่งไม่ถูกกันมารวมตัวกันที่เมืองเฮิร์นฮุทเพื่อ อธิษฐาน โดยการนำของท่านเค้าท์นิโคลาส ฟอน ซินเซนดอร์ฟ พระวิญญาณของพระเจ้าเทลงมา พวกเขาไม่อยากสิ่งนี้หายไป ท่านเค้าท์อ่านพระคำพระเจ้าและแนะนำว่าให้พวกเขาอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาไฟนี้ไว้ไม่ให้หยุด พวกเขาแบ่งนาฬิกาและตั้งเวรกัน อธิษฐาน 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่ออาทิตย์ มาเป็นเวลา 120 ปี พวกโมราเวี่ยนนี้ได้ส่งมิชชั่นนารีออกไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของคริสต จักร ไปยังกรีนแลนด์ ทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ ชนพื้นเมืองในทวีปออสเตรเลีย และยังทิเบต เมื่อพวกเขามาอังกฤษ พวกเขาได้นำให้ชายคนหนึ่งมารู้จักกับพระเจ้า ชายคนนั้นคือ จอห์น เวสเล่ย์ และเมื่อท่านมาสหรัฐอเมริกา ท่านก็ก่อให้เกิดการตื่นตัวครั้งใหญ่ที่นี่ จนเบนจามิน แฟรงคลิน บันทึกไว้ว่า “ราวกับว่าทั้งโลกกลายเป็นเคร่งศาสนาไป ไม่มีที่ใดที่เดินไปแล้วจะไม่ได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระเจ้า” ถ้าประเทศไทยจะเป็นประเทศแห่งไฟ ก็จงให้ไฟที่แท่นบูชานั้นลุกอยู่เสมออย่างต่อเนื่อง พระองค์อาจจะไม่ทำสิ่งนี้ในทันทีทันใด แต่จงเริ่มอธิษฐาน ถามพระเจ้าเอา แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยจะไม่เหมือนกับที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา หรือ ในอิสราเอล แต่พระองค์ก็จะให้ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีกับประเทศของท่านเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น