เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเสียงหรือความคิดที่มาจากพระเจ้า
ลก21:33 ฟ้าและดินจะล่วงไป แต่ถ้อยคำของเราจะสูญหายไปหามิได้เลย
1. ความคิดต้องสอดคล้องกับพระคำภีร์ไม่ขัดต้องหลักการในพระคำภีร์
กาลาเทีย 1: 8 แม้แต่เราเองหรือทูตสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาบ
2.ความคิดหรือเสียงนี้ทำให้เราเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้นหรือไม่
หรือเรามักเรียกว่า Jesus Checklist เช่นถ้าเป็นสถานการณ์ใด สถานการณ์หนึ่งที่เราต้องเผชิญ ให้เราตะหนักดูว่า หากเป็นองค์พระเยซู จะทำเช่นไรในสถาณการณืดังกล่าวนั้น
ยก : 3:14-17 แต่ท่านรู้สึกขมขื่นเพราะมีใจริษยาและมักใหญ่ใฝ่สูง ก็อย่าโอ้อวดและอย่าทรยศต่อความจริง ปัญญาเช่นนี้ไม่เหมือนปัญญาจากเบื้องบน แต่เป็นปัญญาอย่างโลกและเป็นโลกียวิสัย และเป็นปีศาจ เพราะว่าที่ใดมีความริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็วุ่นวายและมีการกระทำชั่วช้าลามกต่างๆ แต่ปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วเป็นความสงบสุข สุภาพและว่าง่าย เปี่ยมด้วยความเมตตาและผลที่ดี ไม่ลำเอียง ไม่หน้าซื่อใจคด
เรามาดูว่าความคิดหรือแรงจูงใจแบบไหนที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า เช่น
- แรงจูงใจที่มาจากความขมขื่นหรือความอิจฉาริษยา
- เป็นความคิดหรือแรงจูงใจที่ทำให้เราเกิดความสันติสุขหรือไม่
- เป็นความคิดหรือแรงจูงใจที่ทำร้ายคนอื่นหรือไม่
3. คริสตจักรให้การรับรองเสียงหรือความคิดดังกล่าวหรือไม่
3.1 เพื่อเป็นการป้องกันความล้มเหลว
3.2 เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาด
อฟ 2 3:10 ประสงค์ให้เทพผู้ปกครองและศักดิเทพในสวรรคสถาน รู้จักปัญญาอันซับซ้อนของพระเจ้าทางคริสตจักร ณ บัดนี้
4. ความคิดหรือเสียงที่มาจากพระเจ้านั้นได้สอดคล้องกับบุคลิกเราหรือไม่
Spriritual Gift ตรงกับของประทานฝ่ายวิญญาน หรือ ของประทานการรับใช้เราหรือไม่
Heart ตรงกับใจเราหรือไม่
Ability ตรงตามความสามารถเราหรือไม่
Personality ตรงกับบุคลิกเราหรือไม่
Experience ตรงตามประสบการณ์ของเราหรือไม่
อฟ 2:10 เพราะเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อประกอบการดี ซึ่งพระเจ้าได้ทรงดำริไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เรากระทำ
5. ความคิดหรือเสียงของพระเจ้านั้นเป็นความรับผิดชอบของเราหรือไม่ ถ้าหากว่าพระเจ้าพูดกับเราถึงคนอื่น หากเป็นเช่นนั้น
- ให้เราอดทนและอธิฐานถึงคนอื่นที่เสียงของพระเจ้าพูดถึง
- และเราต้องเข้าใจว่าหากพระเจ้ามีพระประสงค์ต้องการให้เราได้ยินเสียงของพระ เจ้าที่พูดถึงคนอื่น พระเจ้าจะรับรองในเสียงนั้นแน่นอน
6. การที่พระเจ้าพูดกับเราหรือเสียงของพระเจ้าที่พูดกับเราเป็นการตัดสินหรือประนามผู้อื่นหรือไม่
รม 8:1 เหตุฉะนั้นการลงโทษไม่ไมีแก่คนทั้งหลายที่อยู่ในพระเยซูคริสต์
วว 3 :19 เรารักผู้ใดเราก็ตักเตือนและตีสอนผู้นั้น เหตุฉะนั้นจงมีความกระตือรือร้น และกลับใจเสียใหม่
7. เราจะรู้สึกได้ถึงสันติสุขในพระเจ้าหรือเปล่า
1 คร 14:33 เพราะพระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าแห่งการวุ่นวาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสันติสุข ตามที่ปฎิบัติกันอยู่ในคริสตจักรธรรมิกชนนั้น
ฟป 4: 6-7 อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปราถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้าด้วยการอธิฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์
อ้างอิงจาก: pornyai.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น