วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

พระเยซูคือใคร ตอนที่ 3

  3. หลักฐานทางประวัติศาสตร์
เรื่อง การเกิดของพระเยซูคริสต์มิใช่นวนิยาย  มิใช่เรื่องราวที่มนุษย์แต่งขึ้น  แต่เป็นชีวิตจริงที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยัน  คือ  เมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว  พระเยซูคริสต์เกิดที่ตำบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง  ชื่อ "เบธเลเฮม"  ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร ในประเทศอิสราเอลปัจจุบัน

พระองค์เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน  บิดาเป็นช่างไม้ ชื่อ โยเซฟ  มารดาชื่อ มารีย์  ทั้งสองสืบเชื้อสายจากอดีตกษัตริย์ของชาวยิว คือ กษัตริย์ดาวิด


ชีวิตในวัย เด็ก และวัยหนุ่มของพระเยซูก็เหมือนสามัญชนทั่วไป  ไม่มีการบันทึกไว้มากนัก  จนพระองค์เริ่มพระราชกิจของพระองค์เมื่ออายุได้ 30 ปี  จึงมีบันทึกเรื่องราวชีวิต และคำสอนของพระองค์ไว้ในประวัติศาสตร์

พระองค์ทรงกรำพระราชกิจ และสั่งสอนประชาชนอยู่ได้เพียง 3 ปี  แต่เป็น
3 ปีที่เปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลก 
เรื่องราวที่ละเอียดกว่านี้หาอ่านได้จาก


  • เอกสารชีวประวัติของพระเยซู  ในหนังสือพระคริสตธรรมคัมภีร์ ช่วงพระกิตติคุณมัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น
  • ในบันทึกและคำอ้างอิงของนักประวัติศาสตร์โลก  เช่น  Flavius Josephus (นักประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 1  เกิด ค.ศ. 37)  และ Plinius Secundus (นักประวัติศาสตร์โรมัน  ค.ศ. 120)  เป็นต้น 
  • แม้แต่สารานุกรมอันเป็นที่เชื่อถือของคนทั่วโลกฉบับล่าสุด ที่ชื่อว่า Encyclopaedia Britannica  ก็ได้บรรยายถึงเรื่องราวชีวิตของพระเยซูด้วยถ้อยคำถึงสองหมื่นคำ 
นี่ย่อมแสดงถึงความสำคัญ และความจริงแห่งชีวิตอันน่าเชื่อถือของพระเยซูคริสต์ ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร
4. คำยืนยันที่โลกต้องตะลึง
ดัง ได้กล่าวไว้ในบทนำว่า พระเยซูคริสต์เป็นศาสดาคนเดียวของโลกที่อ้างว่าตนเองคือพระเจ้า  และคำอ้างนี้ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับภารกิจหลักของพระองค์

เราสามารถสรุปสาระสำคัญของภารกิจที่พระเยซูคริสต์กระทำอย่างสั้น ๆ ได้ว่า
"พระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้า  มาเกิดเป็นมนุษย์  เพื่อนำมนุษย์ให้เข้าถึงพระเจ้าโดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน"

ดังที่พระองค์ได้ตรัสไว้ชัดเจนว่า
"6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา
7 ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักเราแล้ว ท่านก็จะรู้จักพระบิดาของเราด้วย ตั้งแต่นี้ไปท่านก็จะรู้จักพระองค์และได้เห็นพระองค์” " (ยอห์น 14:6-7)
เพราะความสำคัญของภารกิจนี้  พระเยซูทรงต้องการให้สาวกเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับตัวพระองค์  จึงได้ถามว่า  "ท่านคิดว่าเราคือใคร"  และเมื่อสาวกคนหนึ่งที่ชื่อซีโมนเปโตรตอบว่า "พระองค์คือพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่"  แทนที่พระเยซูจะตกใจในคำตอบของสาวกผู้นั้น  พระองค์กลับกล่าวชมเชยว่า "ซี โมนบุตรโยนาเอ๋ย ท่านก็เป็นสุข เพราะว่ามนุษย์มิได้แจ้งความนี้แก่ท่าน  แต่พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงแจ้งให้ทราบ" (มัทธิว 16:15-17)

ใช่แล้ว  พระเยซูคริสต์อ้างว่าพระองค์เป็นพระเจ้า  เป็นคำอ้างที่โลกต้องตะลึง
อยากให้เราพิจารณาคำอ้างของพระเยซูคริสต์ ซึ่งกล่าวถึงพระองค์เอง ดังต่อไปนี้


ตอนที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9

 อ้างอิงบทความจาก:christiansiam.com
* การเผยแพร่บทความมีประสงค์ให้ผู้อ่านได้รู้จักพระองค์และได้รับพระพรเท่า นั้นผิดพลาดประการใดขออภัย เจ้าของบทความไม่ประสงค์ให้ใช้เนื้อหานี้โปรดแจ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น